AI กับ Product Management จากหนังสือ the AI product playbook

“Start with the problem, not the technology.”
ai-pm-management-from-ai-product-playbook-cover-image

ในยุคที่ทุกสิ่งดูเหมือนจะต้องมี “AI” อยู่ในชื่อ
เรามักเห็นคำว่า AI-powered, AI-driven, หรือ AI inside ปรากฏอยู่ทุกมุมของโลกเทคโนโลยี
แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ หลายครั้งเรากลับลืมคำถามที่เรียบง่ายที่สุด
“เรากำลังแก้ปัญหาให้ใคร?”

หลายบริษัทเร่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่ "มี AI" ก่อนที่จะเข้าใจว่า "ทำไมต้องมี"
หลายทีมตื่นเต้นกับโมเดลใหม่ล่าสุดก่อนที่จะรู้ว่าผู้ใช้ต้องการอะไร
และนั่นคือสาเหตุที่บทบาทของ AI Product Manager (AI PM) จึงเกิดขึ้น
ไม่ใช่เพื่อเขียนโค้ดที่ฉลาดขึ้น
แต่เพื่อทำให้ “เทคโนโลยีฉลาด” กลับมาเข้าใจ “มนุษย์” อีกครั้ง

AI PM คือคนที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างความไม่แน่นอนของโมเดล และความคาดหวังของผู้ใช้
พวกเขาต้องเข้าใจว่า AI ไม่ได้ทำงานด้วยความแน่นอน แต่ด้วย “ความน่าจะเป็น”
ทุกคำตอบของโมเดลคือสมมติฐาน ไม่ใช่ความจริง
ดังนั้นสิ่งที่ Product Manager ต้องทำ คือออกแบบ “ระบบที่อยู่ได้ในโลกแห่งความไม่แน่นอน”
ไม่ใช่เพียงหวังว่า AI จะตอบถูกเสมอ แต่ต้องออกแบบให้ “แม้มันจะตอบผิด ก็ยังปลอดภัยและมีประโยชน์”

ลองมองดูตัวอย่างที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังอย่าง Duolingo
แอปสอนภาษาที่หลายคนคุ้นเคย ซึ่งมี AI ตัวหนึ่งชื่อว่า “Birdbrain”
หน้าที่ของมันคือประเมินความสามารถของผู้เรียนในแต่ละช่วงเวลา
เพื่อปรับระดับความยากของบทเรียนให้ “ไม่ง่ายเกินไป และไม่ยากเกินไป”
เหมือนแนวคิด “Goldilocks Zone” — พื้นที่ที่เหมาะสมต่อการมีชีวิตในจักรวาล

Birdbrain ไม่ได้ทำให้ Duolingo “ฉลาดขึ้น” ในทางเทคนิค
แต่มันทำให้ผู้ใช้ “รู้สึกเข้าใจตัวเองมากขึ้น”
และนั่นคือแก่นแท้ของ AI Product Management —
การใช้ข้อมูลและโมเดลเพื่อสร้างประสบการณ์ที่มนุษย์ “รู้สึกได้” ไม่ใช่แค่ “ใช้ได้”

AI Product Manager จึงไม่ใช่แค่คนที่เข้าใจโมเดล แต่คือคนที่เข้าใจ ความกลัวและความหวังของผู้ใช้เมื่อเผชิญกับโมเดล
เพราะเบื้องหลังทุกการตัดสินใจของ AI มี “ชีวิตคน” ที่ได้รับผลกระทบ
คำแนะนำของระบบอาจเปลี่ยนเส้นทางอาชีพของใครบางคน
หรือคำตอบของ Chatbot อาจปลอบโยน หรือทำร้ายหัวใจของผู้ใช้ได้ในเวลาเดียวกัน
ความรับผิดชอบของ AI PM จึงลึกกว่าแค่การวัด accuracy
แต่ต้องเข้าใจ “ผลกระทบของความผิดพลาด” ด้วย

การสร้าง Product ที่มี AI จึงต้องเริ่มจากการถามคำถามที่ถูกต้อง:

  • เรามีข้อมูลที่ “ถูกต้องและสะอาด” หรือไม่
  • ข้อมูลนั้นได้มาด้วยความยินยอมหรือเปล่า
  • ความผิดพลาดของโมเดลจะส่งผลอย่างไรต่อผู้ใช้
  • หากระบบตอบผิด — ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ?

เพราะสุดท้าย AI ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต มันไม่มีจิตสำนึก
และไม่มี “ความรับผิดชอบ” ที่แท้จริง
หน้าที่ของ Product Manager จึงไม่ใช่เพียงแค่ “เพิ่มความสามารถของ AI”
แต่ต้อง “ออกแบบกรอบจริยธรรมให้มัน” ด้วย

AI PM ที่แท้จริงไม่ได้ถามว่า

“เราจะใส่ AI ตรงไหนดี?”

แต่จะถามว่า

“AI จะช่วยให้ผู้ใช้บรรลุเป้าหมายได้อย่างไร โดยไม่ต้องรู้ว่ามันคือ AI?”

นี่คือความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ “ใช้ AI” กับ “ขับเคลื่อนด้วย AI”

  • แบบแรก คือการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ
  • แบบหลัง คือการให้ AI กลายเป็นหัวใจของประสบการณ์ที่ผู้ใช้รู้สึกถึง แม้จะมองไม่เห็นมันก็ตาม

ความไม่แน่นอน (uncertainty) จึงกลายเป็นศิลปะแห่งใหม่ของการออกแบบ
เพราะในโลกของ AI ไม่มีคำตอบที่แน่นอน 100%
การออกแบบประสบการณ์จึงต้องสร้าง “ความไว้วางใจ” ที่ยืดหยุ่น

บางทีมออกแบบระบบที่แสดงระดับความมั่นใจของผลลัพธ์ (confidence score)
บางทีมให้ผู้ใช้สามารถโต้แย้งคำตอบของ AI ได้
บางทีมให้ AI “ยอมรับว่ามันไม่รู้” ด้วยข้อความที่มีความเป็นมนุษย์ เช่น

“ขอโทษครับ ฉันอาจยังไม่แน่ใจในคำตอบนี้ แต่เรามาลองคิดไปด้วยกันไหม?”

นั่นไม่ใช่ความอ่อนแอของ AI — แต่มันคือความซื่อสัตย์ของระบบ
และในโลกที่เทคโนโลยีถูกใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ความซื่อสัตย์คือคุณค่าที่หายากที่สุด

สุดท้าย AI Product Management ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ล้วน ๆ
แต่มันคือการผสมกันระหว่าง ตรรกะและความเข้าใจมนุษย์
ระหว่าง ข้อมูลและสัญชาตญาณ
ระหว่าง โมเดลและหัวใจ

เพราะสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการไม่ใช่ AI ที่ฉลาดกว่าเขา
แต่คือ AI ที่เข้าใจเขา

และนั่นคือเหตุผลที่ Product Manager ยุคใหม่
ต้องไม่เพียงเข้าใจเทคโนโลยี — แต่ต้องเข้าใจ “มนุษย์ในวันที่อยู่ร่วมกับเทคโนโลยี” ด้วย

“Good AI doesn’t just solve problems — it understands the people who have them.”
sandwiched-developer-author
s
เขียนโดย

sirawich

[@portabletext/react] Unknown block type "undefined", specify a component for it in the `components.types` prop
อ่านต่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง

mcp-lesson-one-what-why-mcp
sandwiched-developer-author
s
sirawich
·ก.ค. 12, 2025

MCP (Model Context Protocol) คืออะไร